กลีเซอรีนเป็นสารให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว เกิดขึ้นจากกระบวนการผลิตสบู่ ซึ่งผู้ผลิตเชิงอุตสาหกรรมจะแยกกลีเซอรีนที่เกิดจากการทำปฏิกริยาระหว่างไขมันหรือน้ำมันกับสารละลายด่าง ออกมาจากสบู่ และนำไปขายให้ผู้ผลิตเครื่องสำอางและผู้ผลิตยา ซึ่งกลีเซอรีนที่ได้จะมีมูลค่าสูงกว่าการนำไปใช้ผลิตสบู่ หรือเรียกได้ว่าสบู่เป็นเพียงประโยชน์รองทีได้จากการผลิตกลีเซอรีน
สบู่ที่ผลิตได้จากโรงงานอุตสาหกรรมจึงเป็นเพียงเกล็ดสบู่ หรือ Soap Noodle หรือ Soap Chip และนำมาผลิตสบู่ตามกรรมวิธีของ Commercial Soap ข้างต้นนั่นเอง
สบู่ในรูปแบบนี้จึงทำหน้าที่เพียงชำระล้างหรือทำความสะอาด แต่ไม่ได้มีคุณค่าเพียงพอต่อการบำรุงผิว ดังนั้นหลังจากอาบน้ำด้วยสบู่ประเภทนี้ ผู้ใช้จะรู้สึกผิวแห้ง และจำเป็นต้องใช้ครีมบำรุงผิวควบคู่เสมอ
คุณสมบัติของน้ำมันชนิดต่างๆ
นอกจากกลีเซอรีนที่ได้จากการผลิตสบู่ Handmade จะช่วยให้ผิวชุ่มชื้นแล้ว การเลือกใช้น้ำมันก็มีผลต่อคุณภาพของสบู่ต่อผิวด้วย
- น้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์ ทำให้เนื้อสบู่แข็ง มีฟองมาก แต่มีผลทำให้ผิวแห้ง
- น้ำมันปาล์ม ทำให้เนื้อสบู่แข็ง ทำความสะอาดได้ดี แต่ทำให้ผิวแห้ง
- น้ำมันมะกอก ทำให้ผิวชุ่มชื้น ฟองนุ่มเป็นครีม มีฟองน้อย เนื้อสบู่ที่ได้จะนิ่ม
- น้ำมันรำข้าว มีวิตามินอีสูง วิตามินอีทำให้ผิวชุ่มชื้น
- น้ำมันเมล็ดทานตะวัน มีวิตามินอีสูง ทำให้ผิวชุ่มชื้น แต่มีฟองน้อย
- น้ำมันงา มีวิตามินอีสูง ทำให้ผิวชุ่มชื้น แต่น้ำมันงามีกลิ่นเฉพาะ ส่งผลให้สบู่มีกลิ่นหืนง่าย
- น้ำมันถั่วเหลือง มีวิตามินอีสูง ทำให้ผิวชุ่มชื้น เนื้อสบู่ที่ได้จะมีรูพรุน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น